

ระบบสแกนใบหน้าเพื่อการชำระเงิน (Face Scan Payment)
เราได้พัฒนา ระบบสแกนใบหน้าเพื่อการชำระเงิน ที่ล้ำสมัย ด้วยการผสานเทคโนโลยี AI ด้านการรู้จำใบหน้า (Face Recognition) เข้ากับระบบการชำระเงินอัจฉริยะ เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานให้สะดวก ปลอดภัย และไร้สัมผัส (Touchless)
จุดเด่นของระบบ:
✅ จดจำใบหน้าอัตโนมัติ และยืนยันตัวตนก่อนทำธุรกรรม
✅ รองรับการชำระเงินผ่าน QR Code / e-Wallet / บัญชีธนาคาร
✅ ปรับแต่งเพื่อเชื่อมต่อกับระบบ CRM ได้ เช่น จดจำลูกค้าประจำ เสนอโปรโมชั่นเฉพาะบุคคล
✅ ใช้งานง่าย รองรับ หน้าจอ Kiosk / Smart Tablet / Mobile Device
✅ ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล PDPA และ GDPR
ระบบนี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการยกระดับความทันสมัย เช่น:
ห้างสรรพสินค้า
ร้านค้าปลีก
ร้านอาหาร
โรงแรม
Co-working space
ฟิตเนส และสถานบริการอื่น ๆ

จากการแสดงเทคโนโลยีจดจำใบหน้าหรือ Face Recognition ของบริษัท Central JD Fintech ที่ได้รับกระแสตอบรับล้นหลามในงาน Digital Thailand Big Bang 2018 ที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำว่า เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราแน่นอน
และนี่คือ 5 เหตุผลที่เราคิดว่าทำไม Face Recognition จะเป็น The Next Big Thing ที่พลิกโฉมวงการธุรกิจและการใช้ชีวิตของทุกคน
- Face Recognition จะอยู่ในทุกที่
ทุกวันนี้เมืองทั่วโลกเริ่มผนวกเทคโนโลยี Face Recognition เข้ากับบริการสาธารณะ เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัย โดยอาศัยข้อมูลทางกายภาพของบุคคล (Biometric Identification) ในการระบุตัวตนแบบอัจฉริยะ เช่น ม่านตา ใบหู ลายนิ้วมือ สิงคโปร์ได้ติดตั้งระบบจดจำใบหน้าในท่าอากาศยานชางงี หวังแก้ปัญหาผู้โดยสารตกค้าง และลดอัตราเที่ยวบินดีเลย์ ประเทศจีนเองก็เดินหน้าใช้งานเทคโนโลยีนี้เต็มรูปแบบ เช่น ระบบรักษาความปลอดภัยผ่านกล้องวงจรปิด เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกๆ ด้าน
- การจ่ายเงินด้วยใบหน้าจะกลายเป็น New Normal
เทรนด์การจ่ายเงินผ่านการสแกนใบหน้ากำลังมาแรงและยกระดับประสบการณ์ช้อปปิ้งในจีนไปอีกขั้น JD Finance ผู้นำด้านฟินเทคในจีนได้เปิดตัว Face Payment บริการจ่ายเงินด้วยใบหน้า ซึ่งรองรับทั้งช่องทางออนไลน์ (E-Payment) กับออฟไลน์ เช่น Xmart ร้านสะดวกซื้อไร้พนักงาน (Unmanned Store) 7Fresh ซูเปอร์มาร์เก็ตอัจฉริยะ ไปจนถึง JD Home ร้านอุปกรณ์ไอทีของ JD.com และตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติตามออฟฟิศชั้นนำ บริการดังกล่าวยังช่วยลดความเสี่ยงและข้อผิดพลาดของการชำระสินค้า/บริการของธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดของพนักงาน
- ยกระดับความปลอดภัย ป้องกันการปลอมแปลงตัวตนด้วยระบบอัจฉริยะ
เบื้องหลังประสบการณ์จ่ายเงินแบบไร้รอยต่อคือ การพัฒนาเทคโนโลยี Deep Learning กับ Machine Learning อันทรงประสิทธิภาพ ผ่านการฝึกจากแบบจำลองกับข้อมูลนับสิบล้านชุด ทำให้มีความแม่นยำสูงถึง 99.99% ซึ่งแม่นยำกว่าสายตาคน หรือแม้แต่การระบุตัวตนด้วยรอยนิ้วมือ นอกจากนี้ ยังมีซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับตรวจสอบข้อมูลตรงหน้าและแสดงผลแบบเรียลไทม์ (Live Detection) เพื่อเสริมความปลอดภัยและป้องกันการปลอมแปลงตัวตน (Face Anti-Counterfeiting) ปัจจุบันมีผู้ใช้เทคโนโลยีนี้ผ่านแอปพลิเคชัน JD Finance กว่า 10 ล้านคนในจีน!
- เข้าใจลูกค้าด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและเรียลไทม์
ในยุคแห่งการแข่งขันด้วยข้อมูล ระบบวิเคราะห์ใบหน้า (Face Anlysis) จะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเก็บข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า (Customer Onboarding) เช่น เพศ อายุ อารมณ์ หรือกระทั่งติดตามเส้นทางของผู้ใช้ (Customer Journey)
- ตอบโจทย์ธุรกิจและการใช้ชีวิตในทุกด้าน
Face Recognition จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ 4.0 และช่วยขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความเป็นอัจฉริยะ ตั้งแต่การตรวจสอบและยืนยันตัวตนบุคคลบนโลกออนไลน์ (Online Authentication) การล็อกอินแพลตฟอร์มต่างๆ การให้บริการของธนาคาร (Bank Lobby Service) หรือแม้แต่ในอาคารอัจฉริยะ (Smart Buildings)
ถามว่าประเทศไทยจะมีโอกาสได้ใช้บ้างไหม?
ปัจจุบันคนไทยนิยมใช้ E-Payment แทนเงินสดกันมากขึ้น นายกสมาคมการค้าผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไทยคาดการณ์ว่า สัดส่วนของธุรกิจที่ใช้เงินสดจะลดลงจาก 90% ในปี 2017 เหลือ 50% ภายในเวลา 2 ปี
บริษัท Central JD Fintech มีแผนจะเปิดให้บริการด้าน E-Finance และ E-Payment Platform ที่สอดรับไลฟ์สไตล์ของคนไทย ทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อย ร้านค้า และซัพพลายเออร์ โดยต่อยอดจากความรู้ความเชี่ยวชาญเชิงลึกและประสบการณ์ของ JD Finance ในการพัฒนาบริการด้านฟินเทค ซึ่งเป็นบริการที่ได้รับการทดสอบ ยอมรับ และใช้จริงมาแล้ว มาให้คนไทยได้ใช้กัน
บริษัท Central JD Fintech เปิดเผยกับ THE STANDARD ว่า Central JD Fintech จะเปิดให้บริการ E-Wallet เป็นอันดับแรก โดยจะผนวกเทคโนโลยี Face Recognition ในการยืนยันตัวตนและการชำระเงิน ร่วมกับร้านค้าในเครือเซ็นทรัลและพันธมิตรนอกเครือเซ็นทรัล
เพื่อยกระดับประสบการณ์การชำระเงินให้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ตลอดจนช่วยส่งเสริมระบบนิเวศของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้สมบูรณ์
ยิ่งเป็นสัญญาณอันดีว่า เราคงมีโอกาสได้ใช้งานเทคโนโลยีนี้กันจริงๆ ในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นเราอาจเข้าสู่ยุคของ Walletless Society ที่ไม่จำเป็นต้องพกทั้งเงินสด บัตรเครดิต กระเป๋าสตางค์ หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนกันอีกต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
ข้อมูลจาก Central JD Fintech
news.mbamagazine.net/index.php/e-con/local/item/480-e-payment
www.scbeic.com/th/detail/product/4208
www.scmp.com/business/money/article/2155223/china-goes-increasingly-cashless-pboc-says-cash-payment-still-alive
FYI